วิธีการรับลูกตบ


การฝึกรับลูกเร็ว (ลูกตบ,ลูก Top ,อื่นๆ) 
มีเทคนิด 2 แบบ (แต่ใครจะ Mixed แบบ 1 กับ 2 เป็น 3 ก็ได้ แต่ผู้เขียนไม่แนะนำ) 
1. ทำให้ลูกวิ่งช้าลง (Long Receive/Down side) 
การทำให้ลูกวิ่งช้าลง คือเราต้องยืดระยะห่างระหว่าง เรากับลูกออกจากกัน โดยทั่วไป เทคนิคนี้จะเป็นที่ นิยมใช้กันทั่วไป 
โดยการใช้ขา เคลื่อนไหว ออกห่างจากตัวโต้ะ เพื่อรอรับในจังหวะที่ลูกวิ่งช้าลง (ขาลง) 
1.1 ฟุตเวิกร์ต้องดี ไม่โลเล (ก้าวเท้าเท่าที่จำเป็น) 
1.2 สายตาต้องดี ต้องเคลื่อนที่ไปรอ ไม่ใช้วิ่งไปหา (จะทำให้จังหวะในการ Return เสีย) 
1.3 การ Return ในระยะไกล จะมีปัญหาในเรื่อง การที่ต้องเตรียมรับในครั้งต่อไป เพราะ ลูกที่ Return ส่วนใหญ่จะช้า 
1.4 ระวังการหยอดในโต้ะ 
การฝึก 
เน้น สายตา 
การฟุตเวิกร์ และการควบคุมลูกระยะไกล 


2. เข้าหาลูกให้เร็วขึ้น (Short Receive/Up side) 
วิธีการนี้ จะเข้ารับลูกในขณะที่ลูกกระดอนขึ้นจากพื้น ซึ่งจะทำให้การหมุนของลูกยังไม่เกิดขึ้นทำให้สามาร ควบคุมลูกได้ง่าย 
และเป็นการ Return ลูกกลับไป ด้วยความเร็วสูง และลูกจะหมุน ในตอนท้าย แต่ความยากของวิธีนี้ คือ 
2.1 ความรวดเร็วในการเข้าไปรับลูก 
2.2 ความแม่นยำ ในการตีลูก 
2.3 จังหวะ และน้ำหนัก 
2.4 สายตา จะต้องมองหา ช่องว่างที่จะ Return ไปในตำแหน่งที่ทำให้คู่ต่อสูลำบาก 
2.5 การรับวิธีนี้ จะไม่ใช้ฟุตเวิกร์ เต็มที่ จะใช้ 1L และ 1R เท่านั้น เฉพาะลูกที่ ฉีกมากๆ เท่านั้น 
การฝึก 
ระดับแรก ใช้สายตา + ประสานมือ (ลูกความเร็วต่ำ ถึงปานกลาง) 
ฝึกดูลูก และเคลื่อนไหวมือ ให้รวดเร็ว 

ระดับสอง มองภาพรวม + ประสานมือ (ลูกความเร็วต่ำ ถึง สูง) 
ฝึกดูคู่ต่อสู้ ลดการดูลูกลง ให้มองโต้ะปิงปองเป็นภาพใหญ่ การที่ลูกเคลื่อนไหวไปมา 
เราจะเห็นในระนาบสายตาเรา แต่ไม่ต้อง Focus ลูก พยามยื่นมือเข้าไปหาลูกเอง ไม่ต้องตั้งใจมาก 
ฝึกบ่อย มือเราจะตีโดนลูกเอง โดยไม่ต้องใช้สายตามองลูกมาก 

ระดับสาม ปฏิกิริยาตอบสนองอัติโนมัติ + ประสานตา + ประสานมือ (ลูกความเร็วสูง ถึงสูงมากๆ แบบสายฟ้าแลบ) 
พอลูกมีความเร็วเพิ่มขึ้นถึงระดับหนึ่ง วิธีฝึกจะเปลี่ยนไปเราจะใช้ประโยชน์จากปฏิกิริตอบสนองของ ร่างการในการฝึก 
ปฏิกิริตอบสนองของ ร่างการ คืออะไร 
เราลองสังเกตว่า ถ้าเรายืนอยู่เฉยๆ และ เพื่อนเรา ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง แล้วให้เพื่อขว้างลูกบอลใส่เราด้วยความเร็วสูง 
เราจะพบว่า บางครั้งเราจะหลบได้ แบบเฉียดฉิว บางครั้งก็ตกใจ 
บางที่เรายืนอยู่เฉย แล้วมีวัตถุลอยมา บางครั้งเราสามารถยืนมือไปคว้ามาได้โดย ไม่ให้โดนหน้าเรา 
เราเรียสิ่งเหล่านี้ว่า ปฏิกิริยาตอบสนอง อัติโนมัติ 
เราลอง Apply ปฎิกิริยานี้มาที่การเล่นปิงปอง เราจะฝึกอย่างไร 
หลังจากผ่านการฝึกระดับสองมาพอสมควร เราควรจะเริ่มมีปฎิกิริยาตอบสนอง บ้างเล็กน้อย เช่น มือจะกระตุกไปรับลูกที่เร็วมากๆ 
แต่ยังไม่โดน แต่พอเราถูกกระทำบ่อยๆ ปฎิกิริยาตอบสนอง จะเริ่มชัดเจนขึ้น หมายเหตุในขั้นนี้ ทุกครั้งที่เกิด ปฎิกิริยาตอบสนอง 
ขึ้น คุณจะรู้สึกตกใจ บางที่ทำให้ เหงื่อออก แต่นี้เป็น เครื่องชี้วัดที่ดีว่า คุณรู้จักปฎิกิริยาตอบสนอง ของร่างกายแล้ว 
ขั้นนี้ ขอให้อย่ากลัวลูก พอโดนตบมา ด้วยความเร็วสูกมาก บางที่เราจะตกใจ แต่ เนื่องจากเราฝึกมาพอสมควร มือจะเริ่มเคลื่อนใไว 
ไปยังตำแหน่ง ที่ลูกวิ่งมา (เราจะตีโดน /ไม่โดน ไม่สำคัญ) แต่ที่เน้นคือ ให้สภาพการตกใจ หรือ ตื่นเต้น จนเกิด การชักกระตุก มือ เกิดขึ้น เรื่อยๆ 
เหงื่อ จะออกง่าย เนื่อง จากเกิด ปฎิกิริยาทาง ใจ + กล้ามเนื้อที่มือ + แขน กระตุกด้วยความเร็วสูง 
ขั้นนี้ไม่เน้น ความถูกต้อง แม่นยำ แต่เน้นความเข้าใจใน ปฎิกิริยาตอบสนองของร่างกาย 

ระดับสี่ ปฏิกิริยาตอบสนองอัติโนมัติ 2 + ประสานตา + ประสานมือ (ลูกความเร็วสูง ถึงสูงมากๆ แบบสายฟ้าแลบ) 
หลังจากผ่านการฝึกในขั้น 3 มาได้ คุณคงจะเคยชิ้นกับ ปฎิกิริยาตอบสนองของร่างกาย ผลคือ คุณจะไม่ตกใจ อาการ กลัวลูกตบ 
จะหายไป อาการกลัวลูกเร็วก็จะหายไป เรื่องนี้เป็นเรื่อง ธรรมดา เนื่องจาก หากเราเจอ ประสบการณ์ใดบ่อย ๆ แรกเราอาจจะรู้สึก แปลกๆ ตกใจ กลัว 
แต่พอเจอบ่อยๆ ก็จะเปลี่ยนเป็นเรื่อง ธรรมดา (เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป) 
เราจะพบว่า เราหนักแน่นขึ้น ไม่ตื่นเต้น เวลามีลูกเร็ววิ่งมา เราจะเอื้อม มือไปรอรับก่อน โดยอัติโนมัติ 
ขั้นต่อไปของเราคือ การ Return ลูกกลับไปหาฝ่ายตรงข้าม อย่างที่กล่าวไว้แต่ต้น ตั้งแต่ ขั้นที่ 2 สายตา จะเลิก Focus ทีลูก แต่จะ Focus 
ภาพร่วมของโต้ะ ทำให้เราเห็นสภาพ โดยรวมว่า เราควรจะ โจมที่ไปที่ใด (การ Return ลูกแบบนี้จะเร็วมากจนฝ่ายตรงข้ามตั้งตัวไม่ทัน ทำให้บ้างคั้ง ไม่สามารถ โจมตี ซ้ำได้) 
การ Return จเป็นต้องควบคุมกำลังให้ดี เนื่องจากลูกที่มาเร็ว จะมีทั้งแรงมาก แรงน้อย หมุนมาก หมุนน้อย 
เราต้องไปฝึกในหัวข้อ เรื่อง การดูลูกที่พุ่งใส่เรา โดยอาศัยความรู้สึก แล้ว จะเล่าต่อไป... 

หมายเหตุ 
ปฎิกิริยาตอบสนองอัติโนมัติของร่างกาย 
1.รู้จัก ทำความรู้จัก ว่ามันคืออะไร มีลักษณะอาการอย่างไร เกิดขึ้นเมื่อใด ผลคืออะไร สภาพจิต สภาพร่างกาย ระยะเวลาที่เกิด และดับ 
2.สังเกตุ ทุกครั้งที่เกิด มีความแตกต่าง จากครั้งก่อน อย่างไร มีอะไรแปลกใหม่ 
3.ติดตาม เฝ้าติดตาม บ่อยๆ 
4.แทรกแทรง พยามทำให้เกิดขึ้น โดยการสร้างสถานะการเอง (เพื่อสร้างความเคยชิน และ ลดผลกระทบทาง จิตใจ และ ร่างกาย) 
5.ควบคุม เข้าควบคุมปฎิบัติการ การเคลื่อนไหว เริ่มประสานกับ ความคิด แต่ยังมีลักษณะอัติโนมัติ ปะปนอยู่ 
6.ยึดครอง เข้าเป็นส่วนหนึ่งในการเคลื่อนไหวของเรา ทุกการเคลื่อนไหวผสานเข้าความคิด 
7.ปล่อยวาง ลืมมันเสีย ปล่อยให้ทุกอย่างไหลไปเองตามธรรมชาติ ไม่ต้องคิดล่วงหน้า 

ที่มา:http://www.pingpongboard.com/showdetail.asp?boardid=11403

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีการตบลูกปิงปอง

การเสริฟลูกปิงปอง

กฏของการส่งลูกปิงปองที่ถูกต้อง